เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ขับรถเที่ยวกันเอง จะได้มีข้อมูลไว้เผื่อได้ใช้อีก เพราะแอบติดใจการขับรถเที่ยวซะแล้ว (อินางขับ
อิชั้นนั่งมองวิว ฮรี่ๆๆ อินางคือแฟน จขกท เองค่ะ บางครั้งนาง(ชะ)นีกว่า จขกท
มากค่ะ)
ที่มาของทริปนี้ก็คืออยากมีโอกาสสักครั้งที่ได้สัมผัสชีวิตดั่งดยุค
ดั่งเจ้าหญิง ได้นอนในชาโตว์(ปราสาท) ที่ฝรั่งเศส
เราเลยตั้งใจจะไปพักที่ Chateau de tredion ซึ่งเป็นชาโตว์เก่าที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1350 เปลี่ยนมือมาหลายยุคสมัย จนปัจจุบันปรับปรุงเป็น
service apartment ค่ะ
มีรับจัดงานแต่งงานด้วย วันที่เราเช็คอินไปเจองานแต่งงานพอดีเลยค่ะ บรรยากาศอบอุ่นน่ารักมาก มีภาพมาฝากตอนท้ายด้วยนะคะ
ที่พักเราอยู่แถบๆเบรอตาญ แคว้นนึงของฝรั่งเศส
ด้วยความที่ไม่ได้มีความรู้ทางภูมิศาสตร์เท่าไหร่
ข้อมูลต่างๆก็หาได้จากวิกิพีเดียและอากู๋ กูเกิ้ลนี่แหละค่ะ สำหรับที่พักก็ตามนี้เลย http://www.chateau-tredion.com
เราต้องพักที่นี่ 7 วัน ตามสิทธิ์ที่พักของ RCI เลยต้องทำทริปขับรถเที่ยวในแถบนั้นแบบออกเช้าแล้วกลับเย็นได้
เราเลือกช่วงเวลาที่ไปเป็นช่วงสปริง-ซัมเมอร์ เพราะพระอาทิตย์จะตกประมาณสี่ทุ่ม
จะได้มีเวลาเที่ยวได้คุ้ม อมยิ้ม16
ซึ่งสรุปว่าได้เข้าพัก 23 – 30 พ.ค. 2015
อินางจองตั้งแต่ปี 2013
ค่ะ หลังจากกลับมาจากทริปการเที่ยวยุโรปครั้งแรกของเรา และเป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกเช่นกัน ตาม Link นี้ค่ะ
เมื่อเรารู้วันเข้าพักชัดเจน
ก็มาดูว่าจะไปไหนบ้างและอยู่ต่อกี่วัน เพื่อจะได้คำนวนการเก็บเงินค่ะ ทริปยุโรปเราตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2
สัปดาห์ 2 ประเทศ (อยากอยู่นานๆนะ
แต่ติดที่เงินและวันลานี่แหละ)
ด้วยความที่ทริปนี้เรารู้ล่วงหน้าเกือบ 2 ปี เลยเป็นสิ่งที่ดีสำหรับมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ที่อยากเที่ยวไปตามตะวัน
ได้เตรียมสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ
การเก็บเงิน ค่ะ วังวนชีวิต ทำงานๆๆ เก็บเงินๆๆ งดช้อปๆๆ แทบจะงดการตามตะวันในประเทศเลยก็ว่าได้ เราเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ยอมอดอย่างอื่นเพื่อได้ไปเที่ยวตามตะวัน ตามความฝันตั้งแต่เด็กที่อยากจะ go everywhere พอโตขึ้นหาเงินได้เอง ก็จัดไป อย่าให้เสียค่ะ
นอกเรื่องไปเยอะ กลับมาที่ทริปเราต่อดีกว่า เรื่องการวางทริปละเอียด
ก็เอ้อละเหยกันอยู่นาน
มาจัดทริปจริงจังก็ต้นปี 2015
นี่แหละค่ะ
เมื่อเป็นทริป มโน๊...มโน ดั่งเจ้าหญิง
นอนชาโตว์แล้วก็ต้องตามเก็บชาโตว์ของแถบนั้นด้วยค่ะ
สรุปทริปได้มาว่า เที่ยวที่ปารีส 2 วัน ไป Trdion ที่ตั้งของ Chateau de tredion 7 วัน แต่ขอเปลี่ยนบรรยากาศ 1
คืน ไปนอนแถวๆ Le Mont Saint-Michel อีกแลนด์มาร์คของฝรั่งเศสที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง
อีกประเทศ หวยออกที่สเปน เมืองบาเซโลนา 5 วันค่ะ เราเลยกำหนดระยะเวลาทริปเป็น 20
พ.ค. – 5 มิ.ย. 2015
พอสรุปตามนี้ ก็ทำการบ้านของฝรั่งเศสกันอย่างหนักหน่วง เพราะข้อมูลภาษาอังกฤษที่พออ่านได้มีน้อยมาก
ภาษาไทยเนี่ยแทบจะไม่มีเลย
งานนี้เลยหนักที่อินางเค้าล่ะ ส่วนบาเซโลน่า
ข้อมูลที่เราหาอ่านได้เยอะพอสมควร
และแล้วหน้าตาทริปของเราก็ออกมาแบบนี้ค่ะ
ซึ่งพอไปจริงก็มีปรับนะคะ แต่หลักๆเรายึดตามทริปนี้
ต่อไปก็เป็นรายละเอียดการเตรียมตัวค่ะ แบ่งเป็นเรื่องๆ เลยนะคะ
เมื่อทริปเรียบร้อย
ก็เข้าสู่การเตรียมตัวทุกอย่าง เราขอข้ามเรื่องวีซ่าไปนะคะ
สำหรับตั๋วเครื่องบิน
ดีที่เราทราบวันที่ไปกลับแน่นอน ก็รอโปรฯดีๆมาค่ะ ง่วนอยู่เป็นเดือน
มาได้ตั๋วโปรฯของบัตรเครดิตแบงค์สีเขียว
เลยจัดไปแบบไม่รีรอ เพราะเป็นสายการบินที่มองไว้อยู่แล้ว ด้วยความที่เป็นตั๋วโปรฯต้องออกตั๋วเลย
ตอนนั้นยังไม่ขอวีซ่าด้วย แต่ก็จัดไปค่ะ การ์ตาร์แอร์เวย์ ได้มาที่ 25,400 บ./คน เมื่อเดือน มีนาคม ค่ะ เมษายน ทำเรื่องขอวีซ่า ส่วนอินางก็ไปทำใบขับขี่สากล ระหว่างนี้ก็จองรถเสร็จสรรพจากที่ไทยนี่แหละค่ะ
เทียบราคาและรุ่นรถแล้ว หวยออกที่ Hertz ดูรถแบบ 5 ที่นั่ง จะได้นั่งกันสบายๆ (ไปกัน 4 คน) และขนของได้เต็มที่ หลักฐานการจอง ปริ๊นท์ไปด้วยก็ดีนะคะ
พนักงาน Hertz ที่นั่นพูดอังกฤษได้
แต่สำเนียงฟังยากมากค่ะ
ส่วนภาษาฝรั่งเศสอินางบอกว่าก็ยังฟังยาก กันเหนียวไว้ดีกว่า
ใช้เอกสารคุยด้วยจะได้ไม่พลาด ที่สำคัญอย่าลืมใบขับขี่ไทยไปด้วยนะคะ
สำคัญมากๆๆๆๆๆในการทำสัญญาเช่ารถค่ะ
รถได้แล้ว ก็ GPS ค่ะ
เราเตรียมไปด้วยเผื่อของที่ติดมากะรถจะใช้ยาก ลง map
ยุโรปไว้ สบายใจได้
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เดี๋ยวจะขาดใจเจ้านี่เลย pocketwifi จ้า เช่าไว้เรียบร้อย
ข้อมูลก็จากอินเทอร์เนตนี่แหละค่ะ
ที่ฝรั่งเศสเราใช้เจ้านี้ HIPPOKETWIFI ตามลิ้งค์นี้เลย www.hippocketwifi.com
และก็เอาไปใช้บาเซโลน่าด้วย
แต่ที่บาเซโลน ถ้าเราจำไม่ผิดค่ะ จำกัดไว้ที่ 4gb แต่ที่ฝรั่งเศสไม่อั้นค่ะ
ใช้ได้เต็มที่
เค้าจะส่งให้ตามที่อยู่ที่ในฝรั่งเศสตามที่เราแจ้งไว้เลย เราลืมถ่ายรูปตัวเครื่องไว้
เลยขอใช้รูปจากอินเทอร์เนตนะคะ
ที่มีมาให้ ตัวเครื่อง ที่ชาร์จแบต
คู่มือการใช้งาน และซองไปรษณีย์จ่าหน้าเรียบร้อย
ไว้ส่งทุกอย่างกลับเมื่อใช้เสร็จค่ะ
หย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ที่สนามบินวันเดินทางกลับได้เลย
สะดวกมากๆ
ข้อควรระวัง คือ การเปิดสัญญาณตลอด จะเปลืองแบตมาก เตรียมพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยนะคะ สำหรับการชาร์จแบตตัวเครื่องให้ใช้สายที่มากับตัวเครื่อง หรือสายของ device อื่น แต่ต้องเป็นของแท้เท่านั้น เพราะมันจะช้อตง่ายมากถ้าสายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน เราโดนมาแล้วค่ะ เครื่องเจ๊งเพราะใช้สายชาร์จ 2 หัว ตอนชาร์จในรถ เลยวุ่นวายต้องส่ง email คุยกับทาง hippocketwifi ให้ส่งเครื่องใหม่มาให้ที่ชาโตว์ ซึ่งเค้าบริการดีมากค่ะ
ตอบกลับและจัดส่งด่วนใช้เวลา 1 วันก็ถึง แต่เราออกเที่ยวแต่เช้า เลยอดใช้อินเทอร์เนตไปเกือบ 3 วัน ดีหน่อยตรงที่พักมีให้ใช้ค่ะ
จบเรื่องอินเทอร์เนต มาเข้าเรื่องการขับรถเที่ยวที่ฝรั่งเศสเลยนะคะ วันแรก 23/5/15 เรารับรถที่ Orly Airport ค่ะ อย่างที่บอกต้องใช้ใบขับขี่ไทยด้วยในการทำสัญญาเช่า และเก็บหนังสือสัญญาเช่าไว้ให้ดีนะคะ ต้องใช้ตอนคืนรถด้วยค่ะ
ด้วยความที่เป็นวันเสาร์ในสัปดาห์วันหยุดยาวและด้วยเทศกาลของฝรั่งเศส คนเยอะมากๆๆๆ
กว่าจะทำเรื่องเสร็จร่วมชั่วโมงได้ พอลงมารับรถก็ตรวจสภาพรถไว้ด้วยนะคะ เหมือนการเช่ารถทั่วๆไปค่ะ
เมื่อเรียบร้อยก็ไปโลดดดด.......
สำหรับวันนี้จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันแรกนี้
คือที่ Chateau de tredion รวมระยะทางตาม map ก็เกือบ 450km
ถามอินางเรื่องการขับรถพวงมาลัยซ้ายครั้งแรก ตอนที่ออกจากสนามบินมีงงค่ะ
นางบอกต้องจูนสมองนิดนึง แต่สักแพร้บร่างกายอันมหัศจรรย์ของมนุษย์ก็ปรับได้ค่ะ
ลุยโลดดดด
ข้อควรปฏิบัติให้ชินเลยมีดังนี้
1. เวลาจะเลี้ยวต้องมองซ้ายก่อน
2. เวลาเข้าวงเวียนก็ต้องให้ในวงเวียนไปก่อน
ที่ฝรั่งเศสไม่มีสี่แยกค่ะ เป็นวงเวียนและมีเยอะมาก ต้องออกให้ถูกช่องด้วยนะคะ
ไม่งั้นได้เสียเวลาแน่
3. ขับตามความเร็วที่เค้ากำหนดไว้
ข้อนี้สำคัญมาก ตามถนนจะมีป้ายควบคุมความเร็วตลอด
ห้ามขับเกินนะคะ และระวังขับช้าเกินไปด้วย
คนที่นี่วินัยจราจรดีมากเลยค่ะ
รู้สึกปลอดภัยเพราะเค้าทำตามกฎกันอย่างเคร่งครัดค่ะ กลับมาที่เส้นทางของเรา
ขับมาออกมาสักพักถึงด่านไฮเวย์ละคร่าาาา
ครั้งแรกมักจะมึนๆงงนะ
เป็นช่องๆหลายช่องเลย วิธีการก็รับการ์ดแล้วไปจ่ายปลายทางคร่าา อัตโนมัติหมดเลย
เตรียมเงินสดไว้จ่ายด้วยนะคะ
จะได้ไม่เสียเวลามาก ขับชิดๆตู้หน่อยนะคะ จะได้หยิบการ์ดได้สะดวก อินางแขนสั้นไปนิด ต้องยืดๆๆๆ
(ภาพชุดนี้เป็นตอนขากลับเข้าปารีสค่ะ ขาออกนอกเมืองมัวตื่นเต้นและง่วงเหงาอยู่
ไม่ได้ถ่ายไว้เลย ตะเตือนไตมาก T_T)
คันนี้ๆๆ แหละค่ะ
ที่อยู่กับเราและพาเราไปทุกที่ตลอดทริป 7 วัน อินางขับมันเลยค่ะ
จากที่จองเปอร์โยไป แต่ได้ Renault อีกยี่ห้อรถสัญชาติฝรั่งเศสเค้าล่ะ ก็ดีนะ เพราะมันใหม่นี่แหละค่ะ ระบุไว้ก็ไปลุ้นกันวันรับรถนะคะ ผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้ตามที่จอง แต่ก็ดีที่ได้รถใหม่เกือบกิ๊ก วิ่งไปแค่ 250 km ก็โออ่ะเนอะได้รถใหม่
อภัยได้
ด้วยระยะทางอีกยาวไกล
ขอแวะเติมน้ำมันและพักรถระหว่างทางสักหน่อย
วิธีการเติมก็ต้องช่วยตัวเองทุกอย่างนะคะ
อัตโนมัติหมด
สำคัญมากคือ
ต้องเช็คเรื่องบัตรเครดิตที่ใช้ได้ด้วยนะคะ
บางบัตรก็ใช้ไม่ได้
บัตรที่เราใช้ได้ของซิตี้แบงค์ค่ะ เสียบกันอยู่หลายบัตร
ครั้งแรกก็งี้แหละเนอะมึนๆงงๆกันไป
ปั๊มที่เห็นเยอะจะเป็น TOTAL ค่ะ วิธีการเติม เสียบการ์ดจนกว่าจะมีสัญญานให้ดึงออก
แล้วหน้าจอจะถามว่าเราจะเอาสลิปมั้ย
เครื่องจะบอกว่าเราเติมได้สูงสุดกี่ยูโรด้วยนะคะ
อย่าลืมเช็คว่ารถเราใช้น้ำมันอะไรด้วย มีติดไว้ที่ฝาถัง
เสร็จแล้วเครื่องก็จะตัดเงินจากเครดิต แล้วเจ้าเครื่องก็จะให้สลิปเรามาค่ะ
ปั๊มที่ต้องไปจ่ายเงินในร้านค้า จะมีหมายเลขเครื่องให้เราบอกเค้าตอนจ่ายเงินค่ะ
ที่พักรถมีอยู่ตลอดทางนะคะ ห่างกันประมาณนึง แต่คอยเช็คน้ำมันไว้เป็นระยะๆก็ดีค่ะ จะได้ไม่ต้องลุ้นเกินไป
สำหรับที่พักรถใหญ่ๆ มีสตาบัคส์ด้วยนะคะ เติมน้ำมันแล้วก็ไปต่อกันเล้ยยยยย ตามทริปเราแวะที่ Lemans ก่อนค่ะ
อินางของเราจะได้พักเหนื่อยหน่อย
พักเหนื่อยแล้ว ก็ไปต่อกันที่เมืองน่ารักๆ เมืองแรกของทริปนี้ Le Mans น่ารักจน ฉันรักเธอ
ถ้าชอบแนวแข่งรถก็คงคุ้นๆกัน
มีสนามแข่งรถที่จัด 24 Hours of Le
Mans
และก็มีมิวเซียม Musée Automobile de la Sarthe ที่แสดงรถยนต์ชั้นยอดมากมายนะคะ แต่เราไม่ใช่แนวค่ะ ก็เลยเดินชมเมืองน่ารักๆแทน
เสียดายไม่ได้อยู่ตอนกลางคืนดูโชว์แสง สี เสียง
แต่แค่ชมเมืองเก่าสมัยยุคกลางช่วงศตวรรษที่ 13-14 ก็คุ้มแล้วกับครึ่งวัน
เมืองเก่าเล็กๆแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเลยค่ะ บ้านเก่าในแถบนี้จะเป็น Half-timbered
houses ทั้งนั้นเลยค่ะ สวยแปลกตา
ดูเพลินๆดีค่ะ
วันที่เราไปเจองานแต่งหลายคู่เลยค่ะ บรรยากาศโรแมนติกมากกกกกก ก ไก่ล้านตัวเลย ถ่ายรูปยังไงก็ไม่เหมือนตาเห็น
รถงานแต่งของแต่ละคู่ก็มีสไตล์ของตัวเอง
น่ารักมั่กมาก แอบคิดว่าถ้าได้จัดงานที่เมืองนี้ก็คงดีไม่น้อย
มโน๊....มโน เนอะ ดึงสติหน่อย บอกตัวเอง
ฮรี่ๆๆ
แค่ได้สัมผัสบรรยากาศ
ก็อิ่มใจแทนเจ้าบ่าว เจ้าสาวแล้วค่ะ
เดินเล่นเขตเมืองเก่าอีกสักหน่อย
เป็นเมืองที่น่ารัก
และเราก็หลงรักเมืองนี้เข้าแล้วล่ะค่ะ Le Mans ฉันรักเธอ
ไปต่อกันดีกว่า เดี๋ยวจะถึงที่พักช้ากว่ากำหนด
เพราะนัดเวลาเช็คอินไว้หกโมงเย็น ที่นี่ Reception ไม่ได้ 24 ชม.ค่ะ ไปช้าเกินเวลาต้องนัดไว้ เหลืออีกครึ่งทาง Go…go…go! Chateau de tredion ปราสาทแรกของทริปนี้
และเป็นที่พักเราด้วยยยยยยย
แล้วยังไงติดตามกันนะค๊าาาาาาาาาาาาา
เที่ยวไปตามตะวันแบบ BRgoeverywhere แค่มีฝัน เราเชื่อว่าจะมีแรงขับให้เป็นไปได้ค่ะ
ออกตามตะวัน ไปจับฝันกันเถอะ!!!!
No comments:
Post a Comment