มาถึงบทสุดท้ายของทริปขับรถเที่ยวฝรั่งเศสในแคว้น Brittany แล้วนะค๊า ขอรวบ 2 วันไว้ด้วยกันเลยนะคะ วันสุดท้ายขับรถกลับปารีสแลยแวะชมมรดกโลกที่ Chartres ค่ะ
ไปเที่ยวกันเลยดีกว่าวันนี้เราจะไป 2 เมือง ออกสายหน่อยเลยมีเวลาเที่ยวน้อย เพราะปราสาทแรกที่จะไปเค้าเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆค่ะ เป็นข้อควรระวังอย่างนึงเลยนะคะ สำหรับการเที่ยวปราสาทหรือมิวเซียมที่เปิดเป็นรอบเวลา เราเช็คมาแล้วค่ะ แต่เฉียดไปเล็กน้อยเลยต้องรอรอบใหม่ แต่ก็ทำให้เสัยเวลาไปเยอะค่ะ มาว่ากันต่อกับเส้นทางแรกของวันตามนี้เลยค่ะ ขับประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว
จอดรถละก็เดินค่ะ ไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ Combourg
มีพร๊อบให้ถ่ายรูปเล่นด้วยน๊า การเข้าไปศูนย์บริการของเมืองต่างๆ จะได้แผ่นพับที่ให้ข้อมูลสถานที่ต่างๆและแผนที่ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆค่ะ ได้ข้อมูลแล้วก็ไปต่อกันค่ะ
ร้านอาหารเล็กๆค่ะ ข้างๆกันเป็นร้านเบเกอรี่ ขนมน่ากินมากกกก เราก็จัดมาชิ้นนึงค่ะ ชิ้นนี้เลย 2ยูโรเท่านั้น แต่ชิ้นใหญ่มากกก
ราสเบอรี่ผลสด ซอสราสเบอรี่ก็เจ้มจ้นมากกกกก อร่อยเกินราคาเลยค่ะ ได้ขนมแล้วก็ไปต่อ เดี๋ยวเราจะไปที่นี่กัน
Chateau de Combourg เป็นปราสาทยุคกลางตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ติดกับ Lac Tranquille ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เงียบสงบของเมืองนี้ค่ะ ปราสาทนี้เป็นสมบัติส่วนบุคคล แต่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของทางการฝรั่งเศสค่ะ
สร้างเมื่อศตวรรษที่ 12 เพื่อปกป้องบ้านเมือง โบสถ์และอิสระภาพของแคว้นบริตตานีค่ะ ปราสาทนี้เป็นที่โด่งดังขึ้นมาในปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักเขียนแนวโรแมนติกของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนนึง François-René de Chateaubriand นั่นเอง ครอบครัวของเค้าได้ซื้อปราสาทนี้ในปี คศ.1761 และที่นี่ก็เป็นแรงบันดาลใจในงานเขียนของเค้า และ Chateaubriand ได้กล่าวไว้ว่า Combourg เป็น "The birthplace of Romanticism"
ในปี 1876 ปราสาทก็ได้รับการบูรณะอีกครั้งจากทายาทของ Chateaubriand
โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง Eugène Viollet-le-Duc ซึ่งเป็นผู้บูรณะ โบสถ์ของ Notre Dame de Paris, โบสถ์ของ Mont Saint-Michel เมืองยุคกลางของ Carcassonne และปราสาทของ Pierrefonds และ Vincennes ค่ะ
ทราบประวัติกันพอหอมปากหอมคอ ก็ไปเที่ยวกันเล้ยยยย
แต่เดี๋ยวก่อนนนนน.... มาไม่ทันรอบเข้าชมช่วงเช้าค่ะ และเค้าเปิดอีกทีตอนบ่ายสอง งั้นเราก็ไปทานกลางวันรอละกันเนอะ ร้านอาหารที่นี่ไม่ค่อยเยอะค่ะ เป็นเมืองเล็กๆ แต่เรามาเจอร้านนึงที่วิวเริ่ด คุ้มค่าน่านั่งทานจริงๆค่ะ คนแน่นร้านด้วย
นี่เป็นวิวที่มองจากร้านค่ะ
มื้อกลางวันของเรามาแล้ววววว
จานใหญ่มากกก มันฝรั่งลูกโต๊โตค่ะ อิ่มท้องละก็ไปที่ปราสาทกันค่ะ
เสียดายที่เค้าไม่ให้ถ่ายภาพข้างในค่ะ เลยอดเก็บภาพมาฝากเลย แต่บอกได้เลยว่า สวยจริงๆ ทุกห้องที่เปิดให้ชม ได้รักษาทุกอย่างไว้อย่างดีทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของสะสม ภาพวาดของศิลปินต่างๆ ด้านในนั้นสวยงามมากจริงๆค่ะ
จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าชนชาติไหน ขึ้นชื่อว่าโบราณสถานก็ย่อมมาคู่กับเรื่องเล่าหลอนนนน......(ทำเสียงเนิบช้า)
ว่ากันว่า....ที่นี่เป็นปราสาทแมวดำ ที่น่าสะพรึง โดยที่ห้องนอนของ Chateaubriand ที่อยู่ในตึก 'Tour du Chat' นั้น วันดีคืนดีคนที่มานอนในห้องนี้จะได้เจอกับวิญญาณของเจ้าของผู้สร้างปราสาทแห่งนี้คอยตามหลอกหลอน และไม่ได้มาในรูปของผีธรรมดาาาา..... เค้าจะปรากฏตัวในร่างของ แมวดำ!!!! น่าจัววววว....... บรึ๊ยยยย!!!
ในห้องนั้นมีโชว์ซากแมวสต๊าฟไว้ด้วยค่ะ ถ้าเข้าไปคนเดียวก็คงหลอนๆเหมือนกัน พอทัวร์ครบรอบก็ออกมาชมบรรยากาศรอบๆ เก็บภาพด้านนอกมาฝากแทนละกันนะคะ สวนป่าสวยจริงๆค่ะ มาช่วงเขียวๆๆสดชื่นดีค่ะ
ได้เวลาไปอีกที่แล้วค่ะ แต่ดูเวลาแล้วไม่น่าทัน เพราะเรามาเลทไปประมาณชั่วโมงนึงค่ะ
คือพลาดรอบการเข้าชมที่ Chateau de Combourg ไปรอบนึง ทำให้เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเลยค่ะ
แต่ถึงยังไงขอไปให้ได้เห็นกับตาหน่อยละกันเนอะ
ชั่วโมงนิดๆก้ถึงแล้วค่ะ แต่หกโมงแล้วววว ตะเตือนไต ตั้งใจมาที่นี่ Chateau de Josselin แต่มาไม่ทันค่ะ ปิดแล้ว แต่ไหนๆก็มาละชมด้านนอกก็ได้เนอะ
Chateau de Josselin เป็นป้อมปราการสมัยยุคกลางที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของศิลปะแบบ Renaissance ของ Brittany ค่ะและปัจจุบันก็เป็นของตระกูล Rohan ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งปราสาทนี้มานั่นเอง นับได้ว่ากว่าพันปีมาแล้วที่ตระกูล Rohan ได้อาศัยอยู่ในปราสาทนี้และได้มีการตกแต่งอย่างสวงาม หรูหราค่ะ เสียดายมากกกกกก ที่ไม่ได้เข้าไปดู
ได้แต่เก็บภาพด้านนอกมาค่ะ
และก็ได้เวลากลับชาโตว์เราแล้ว คืนสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ที่นี่ เวลาผ่านไปไวมากกก ยังมีอีกหลายๆที่ที่ยังไม่ได้ไป
พรุ่งนี้ต้องกลับเข้าปารีสละ แต่ยังมีเวลาเพราะนัดคืนรถ 2 ทุ่มค่ะ ช่วงเช้าเลยมีเวลาให้กับ Chateau de tredion ของเรา และแวะไปชมมรดกโลกที่ Cathédrale Notre-Dame de Chartres ค่ะ
มหาวิหารคาทอลิกยุคกลาง ที่นี่คือเป็นต้นแบบของมหาวิหารสไตล์กอธิคที่ยิ่งใหญ่ มหาวิหารแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น masterpiece ในความอัจฉริยะและสร้างสรรค์ของมนุษย์กันเลยทีเดียว
การก่อสร้างและตกแต่งนั้นก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็วแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคริสเตียนสมัยยุคกลาง นั่นจึงเป็นที่มาของ Cathédrale Notre-Dame de Chartres หนึ่งในมรดกโลกที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงปารีส ระยะทางประมาณ 90km ซึ่งได้ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วสารทิศมายล และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จะต้องไปชมให้ได้ค่ะ และก็มาถึงเมือง Chartres แล้ววววว
จอดรถกันก่อน แล้วเดินไป Cathedral of Our Lady of Chartres อีกชื่อนึงที่รู้จักกันดีค่ะ
ยิ่งใหญ่และสวยงามมากๆๆ แสดงถึงศิลปะโกธิกยุคกลางได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ประตูทางเข้ามหาวิหารทั้ง 3 ด้าน เป็นประตูแกะสลักที่แสดงถึงความคิด ความเชื่อแบบฉบับยุคกลาง ที่สวยงามและยิ่งใหญ่
ภาพนี้เป็นประตูกลางของประตูฝั่งทิศเหนือ แสดงถึงฉัตรมงคลของพระแม่มารี ท่านเป็นคนแรกที่ได้รับมงกุฎจากมือขวาของพระคริสต์ เปรียบเสมือนการได้รับรางวัลแห่งความซื่อสัตย์และศรัทธา บนทับหลังด้านล่างมีส่วนที่แสดงถึงการสิ้นพระชนม์ของพระแม่มารี นอกจากนี้ยังมีรูปสลักของนักบุญและผู้เผยแผ่พระวจนะอยู่โดยรอบโค้งประตูตามแบบศิลปะโกธิก ยิ่งใหญ่และงามมากจริงๆค่ะ
ด้านนี้เป็นนี่ประตูวิหารทางทิศตะวันตก ซึ่งจะเปิดเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนา
ปฏิมากรรมบนประตูทางเข้าด้านทิศตะวันตกนี้เป็นรูปเคารพ “พระเยซูผู้ทรงเดชานุภาพ” บนหน้าบัน
ซึ่งเป็นภาพพระเยซูประทับบนบัลลังก์ในฐานะประมุขของโลก ในการวางองค์ประกอบของงานศิลปะจะเป็นภาพที่จะมองจากด้านหน้าเสมอ และมักจะขนาบด้วยคนหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปแล้วแต่บริบท ซึ่งที่ Cathédrale Notre-Dame de Chartres นี้ขนาบข้างโดยสัตว์ทั้งสี่ค่ะ
ธรรมชาติและศิลปะเป็นของคู่กัน แสงแดดที่ตกกระทบในแต่ละช่วงเวลาดูเหมือนว่าจะทำให้ปฏิมากรรมโกธิกชิ้นยอดเหล่านี้มีชีวิต ด้วยความงามอันประณีตอ่อนช้อย ดื่มด่ำซึมซับกับงานศิลป์กันอย่างเต็มอิ่มเลยค่ะ ไปต่อกันกับความงามด้านในกันเลยนะคะ
เข้าไปชมด้านในกันค่ะ
โดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกสีที่สวยงามและยิ่งใหญ่ของศตวรรษที่ 12 และ 13 ห้ามพลาดชมนะคะ
งานปฏิมากรรมด้านในมหาวิหารค่ะ พูดเลยว่ายิ่งใหญ่และสวยงามมากจริงๆ
วันที่เราไปที่นี่เค้ามีงานพิธีทางศาสนาพอดีค่ะ เลยเดินชมแพร้บนึงก็ขอตัวออกมา
ออกมาชมด้านนอกกันต่อเลยนะคะ
The astronomical clock อายุอานามก็ตั้งแต่ ปี คศ.1528 เลยค่ะ เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งมีกลไกพิเศษและสามารถหมุนได้ เพื่อแสดงข้อมูลทางดาราศาสตร์ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งของดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, กลุ่มดาวจักรราศีและบางครั้งยังบอกได้ถึงตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่สำคัญด้วย เจ๋งมากกกก
เดินชมรอบๆมหาวิหารกันค่ะ
สมบูรณ์แบบอย่างมรดกโลกจริงๆค่ะ แล้วก็ได้เวลากลับปารีสเพราะนัดส่งรถไว้ตอนสองทุ่มค่ะ
เฮ้ออออออออออออออ!!!! ขอถอนหายใจยาวววววววววววๆๆๆๆ ล้านๆๆๆครั้ง ไม่อยากคิดเลยว่าต้องจบทริปขับรถเที่ยวแล้ว ตะเตือนไตมาก แต่ความสวยงามของเส้นทางที่เราไปยังคงความประทับใจมากกกกกกก ก ไก่สิบแปดล้านตัว ทั้งสถานที่ที่มีสเน่ห์ ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย มาเที่ยวช่วงสปริงได้เจอ ฟ้าใส แดดดี มีเจอฟ้าปิดแค่ 2 วัน จาก 7 วัน
นับว่าเป็นทริปขับรถเที่ยวแคว้นบริตตานี ที่อยากจะบอกเล่าความรู้สึกดีๆเผื่อข้อมูลจะเป็นมีประโยชน์กับท่านที่สนใจเส้นทางนี้ค่ะ
เที่ยวไปตามตะวันแบบ BRgoeverywhere แค่มีฝัน เราเชื่อว่าจะมีแรงขับให้เป็นไปได้ค่ะ
ออกตามตะวัน ไปจับฝันกันเถอะ!!!!
หาที่พัก โรงแรม ง่ายๆ จาก agoda ได้เลย